วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2561

ทริปขับรถเที่ยว ปุตราจายา กัวลาลัมเปอร์ เก็นติ้ง คาเมรอน ปีนังประเทศมาเลเซีย 5 วัน 4 คืน ตอนที่ 1


ทริปขับรถเที่ยว ปุตราจายา กัวลาลัมเปอร์ เก็นติ้ง คาเมรอน ปีนัง
ประเทศมาเลเซีย 5 วัน 4 คืน ตอนที่ 1


โปรแกรมเดินทาง  เที่ยวแบบชิวๆ ไม่ต้องเหนื่อยมาก เก็บบรรยากาศครบรส

  กำหนดการการเดินทาง ทริป ปุตราจายา  -กัวลาลัมเปอร์ -เก็นติ้ง –คาเมรอน- ปีนัง

วันแรกของการเดินทาง

ออกเดินทางจากเบตง มุ่งสู่ กัวลา ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
โปรแกรมแรกไปปุตราจายา
มัสยิดสีชมพู  ที่ปุตราจายา ( Putra Mosque)
ต่อด้วยมัสยิด สีเงิน (Iron Mosque)  masjid tuanku mizan
เข้าเช็คอินที่พักโรงแรมอิซูมิ บูกิตบินตัง ที่กัวลาลัมเปอร์
เดินไปตึกแฝด (Petronas Tower หรือ Twin Tower)
แล้วก็เดินเที่ยวย่านที่พัก เก็บแรงนอนพัก

วันที่สองของการเดินทาง
ออกจากโรงแรมขับชมเมืองบริเวณ จตุรัสเมอร์เดก้า ( Merdeka Square หรือ Dataran Merdeka)
จากนั้นออกจากกัวลา ไปถ้ำบาตู  ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
ออกจากถ้ำบาตูไปโคลมาร์ ทรอปิเคล - เบอร์จายา ฮิลส์ (Colmar Tropicale – Berjaya Hills)  ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
เข้าสู่ที่พัก (Resorts World Genting - First World Hotel)
เดินเล่นในคาสิโน่ ช็อปปิ้งในคาสิโน่

วันที่สามของการเดินทาง
ตื่นเช้าเช็คเอ้าส์แล้วไปชมความงามที่วัดChin Sweeที่เก็นติ้ง
ออกจากเก็นติ้งไป Hutan Lipur Lata Iskandar เป็นน้ำตกที่อยู่ติดถนนเลย อยู่ในรัฐPerak
แวะไร่ชา จิบชาเบาๆ ที่ bharat cameron valley tea house
ไปชมแปลงผัก ไร่สตรอบเบอรี่ ที่ big red strawberry farm
แวะเดินเที่ยวตลาด pasar pagikea farm ตลาดใกล้โรงแรม
กลับไปพักที่ Copthorne Cameron Highlands
แล้วก็เดินลงมาทานสุกี้ที่นี้ ขึ้นชื่อ


วันที่สี่ของการเดินทาง
ออกจากโรงแรมไปชมไร่ชาที่  boh sungai palas tea centre
แวะไหว้พระแป๊ะกง ที่thai pak koong temple tanjung tokong
แล้วก็เข้าโรงแรม Hotel Sentral Seaview Penang
จากนั้นไปเล่นน้ำทะเลที่ปีนัง

วันที่ห้าของการเดินทาง
เดินชมวิวทะเลติดโรงแรมยามเช้า
เดินทางไปชมเมืองเก่าปีนังที่ Penang Street Art
แวะเดินเล่นเที่ยวห้างคอมต้าร์
เดินทางกลับเบตง

ทริปนี้ได้ประสบการณ์หลายแบบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขึ้นทางด่วนต่างเมือง จ่ายค่าที่จอดรถผ่านตู้บัตร รถติดที่มาเลย์  เจอทาง One-Way  สั่งอาหารกันคนละภาษา (สั่งได้ด้วยนะ 55) และอีกมากมาย ครบรส

วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ไปปฎิบัติธรรม บวชใจ ณ สำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล (เกาะมหามงคล) จังหวัดกาญจนบุรี

สำนักปฏิบัติธรรมดินแดนมหามงคล (เกาะมหามงคล) จังหวัดกาญจนบุรี


เราได้ยินเรื่องราวในดินแดนแห่งนี้จากคนอื่นมาประมาณ 5 ปีเห็นจะได้
และแล้วเราก็ได้ไป บวชใจ ณ ที่แห่งนี้ ไปถึงพูดได้คำเดียวว่า สงบมาก
คือเป็นดินแดนที่เราเรียกได้ว่า คนที่ไปตั้งใจไปปฏิบัติธรรม
หน้าตาอิ่มเอิบใจ ผู้คนที่ไปก็ดูจะไปเพราะสุขใจ มากกว่าไปเพราะหนีทุกข์มา

เราจะแนะนำให้สำหรับคนที่ไม่เคยไปเลยนะค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวไปเกาะมหามงคลมีอะไรบ้าง ณ ตอนที่เราไปนะปี 2018 นะคะ

- เตรียมชุดขาวไป (ถ้ามี) สถานที่ปฏิบัติมีขายค่ะ ราคาไม่แพง เหมือนทำบุญค่ะ
 ในส่วนของชุดขาว เสื้อจะคลุมยาวปิดข้อมือ ซึ่งถ้าข้างนอกอาจจะไม่เหมือน ก็ต้องซื้อจ้า
 ส่วนผ้าถุงเราสามารถใช้ของเราได้นะ แต่ถ้าซื้อของที่นี้ เค้าจะทำกระดุมติดไว้ ใส่สะดวกดีค่ะ
 ส่วนสไบ ทางสถานปฎิบัติมีให้ยืมค่ะ  จะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้คะแล้วแต่เรานะ

- ทางสถานปฏิบัติธรรม จะไม่มีการเปลี่ยนชุดลำลองนอนนะค่ะ เราจะสวมชุดขาวนอนเลย
แต่ตอนกลางคืนหนาวมาก  เตรียมเสื้อกันหนาวมาใส่กันหนาวได้นะ
ใส่เสื้อกันหนาวไปสวดมนต์ตอนทำวัตรเช้าได้นะ

- เตรียมผ้าห่ม  มาห่มนอนตอนกลางคืน เพราะกลางคืนที่นี้หนาวมากจริงๆ
ที่ปฏิบัติ ถ้าคนเยอะก็ไม่พอนะ แต่ก็มีเบิกยืมมาใช้ได้นะ

- หมอนหนุนเราจะเอามาด้วยก็ได้ หรือจะใช้ผ้าขนหนูมาพับเป็นหมอนแล้วหนุนนอนก็ได้นะ
หรือจะใช้กระเป๋าเรามาหนุนนอนก็ได้ แล้วแต่เราเลย

- รองเท้าแนะนำใส่เป็นรองเท้าแตะนะ ประมาณรองเท้าจิงโจ้เลยก็ได้ สะดวกดี
เพราะเราต้องเดินถอดรองเท้าเข้าไปทำวัตรเช้า เดินเท้าเปล่าจงกลม รับอาหารเช้า
จะต้องถอดรองเท้าค่อนข้างบ่อยนะค่ะ

- เครื่องใช้ส่วนตัว ยาสระผม สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ห้องน้ำที่นี้จะไม่มีน้ำอุ่น
จะอาบน้ำกับฝักบัว หรือถังน้ำรอง บวกขันน้ำ แล้วแต่เราจะเลือกอาบ
พูดได้คำเดียว น้ำเย็นมาก เพราะเป็นน้ำจากเขา หนาวยะเยือกเลยละ สุดๆเลย
ได้พิจารณาสังขารตอนอาบน้ำแน่ๆ 

- ผ้าขนหนู เตรียมมาเช็ดตัว เช็ดหน้า ได้เลยจ้า

- ไฟฉายแบบพกพา แนะนำซื้อที่นั่นเลยก็ได้ อันเล็กดี พกไว้ในกระเป๋า
เพราะจะต้องใช้เวลาเดินจงกลมตอนเช้ามืด

- กล่องข้าว พร้อมช้อนส้อม เอากล่องข้าวมาตักอาหารตอนเช้าเก็บไว้กินมื้อเที่ยง
ทางที่นี้จะให้เราตักข้าวเก็บไว้หลังจากเราทานมื้อเช้าเสร็จ ใครที่จะทานมื้อเที่ยง
ก็เดินไปตักเท่าที่เรากินแล้วเก็บไว้ทานตอนมื้อเที่ยงนะ

- ผ้าอนามัย สำหรับคนที่วันนั้นของเดือน ในห้องน้ำจะไม่มีถังขยะนะค่ะ
ให้เตรียมกระดาษห่อผ้าอนามัยมาด้วยจะดีนะ จะมีถังขยะอยู่หน้าห้องน้ำนะ

- ย่ามเล็กๆไว้ใส่ของ ไว้ใส่กล่องข้าว แมสปิดปาก สัมภาระ เงินนะ แต่เวลาเข้าศาลาสวดมนต์
เราก็ต้องวางย่ามไว้ที่ด้านข้างอยู่ดี ไม่ได้เอาเข้ามาข้างตัวนะ
ดังนั้นเงินของมีค่าก็ใส่กระเป๋าเสื้ออยู่ติดกับตัวนะดีกว่า

- แมสปิดปาก เอาไปใส่ตอนตักอาหาร เพื่อกันสิ่งสกปรก หรือบางคนเป็นไข้หวัด จะได้ไม่แพร่เชื้อ
จะต้องมีแมสปิดปากทุกคน ไว้ใส่แค่ตอนตักอาหารนะ ดังนั้น ใส่ไว้ในกล่องข้าวเลย กันลืมนะ

อันนี้คือสิ่งที่จำเป็นเน้อ  
ส่วนอันอื่น จะเป็นสิ่งที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้แล้วแต่เรานะ อย่างเช่น

- ถุงเท้า ไว้ใส่กันหนาวตอนนอน

- รองเท้าธุดงส์ อันนี้ซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ ถ้าใครที่รู้สึกว่า ไม่อยากเดินเท้าเปล่า
หินตำเจ็บ หรือรู้สึกเดินลำบาก เพราะมีการเดินหเท้าเปล่า ประมาณเป็นชั่วโมงได้มั่ง
แต่ถ้าเราเดินเท้าเปล่าได้  รองเท้าธุดงส์ก็ไม่ต้องซื้อนะ

- ขวดน้ำ เอามาก็ได้หรือไม่ก็ได้เพราะตามจุดที่พักจะมีน้ำดื่มพร้อมแก้วน้ำให้อยู่แล้ว
เราจะต้องนั่งกิน ไม่งั้นศีลขาดนะ  ก็นั่งดื่มน้ำตามจุดก็ได้  จะได้ไม่ต้องพกขวดน้ำนะ
หรือบางท่านก็เตรียมขวดน้ำใส่น้ำไว้สำหรับไปกรวดน้ำนะ

- ไมโล โอวัลติน กาแฟ เม็ดต้ม แบบซอง ถ้าเราจะชงดื่มช่วงค่ำกับตื่นเช้า แนะนำให้เตรียมมา
ที่นี้มีน้ำร้อนไว้ให้เรา มีแก้วน้ำไว้ให้ เราเตรียมมาชงดื่มได้ เผื่อใครหิวยามดึกก็ชงดื่มได้นะ

- หนังสือธรรมะ แต่ที่นี้มีหนังสือสวดมนต์เฉพาะที่นี้นะ
แต่ถ้าใครอยากเอามาอ่านในช่วงเวลาว่างบ้างช่วง ก็นำมาอ่านเพิ่ม ทำสมาธิเพิ่มได้
มันจะมีช่วงเวลาหลังจากทำบ่อบุญเสร็จ จะมีเวลาสักช่วงหนึ่ง ซึ่งก็แล้วแต่บุคคล
บางคนก็นอนสมาธิบ้าง บางคนก็เดินจงกลมเอง บางคนนั่งสมาธิ
บางคนก็ไปกวาดใบไม้ แล้วแต่ละบุคคลจะทำตามความเพียรเลยนะ

- ยากันยุง คือถ้าใครแพ้ยุง ก็เตรียมไปทาไว้ก็ได้นะ

- ผ้าคลุมกระเป๋าสีขาว เพื่อความเรียบร้อย แต่ไม่มีก็ได้นะ

นอกนั้นก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้วนะ
สำหรับคนไปครั้งแรกที่เกาะมหามงคลอาจจะงงๆนะ ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงบ้าง

สิ่งแรกเมื่อไปถึง จะมีคนดูแลอยู่โซนด้านหน้า ที่จะต้องตรวจกระเป๋าเราก่อน
ว่าเราจะเอาอะไรไปบ้าง ไม่ให้เราเอาโทรศัพท์มือถือเข้าไปด้านใน อุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด
สร้อยคอก็ต้องถอดออกนะคะ  หลังจากเช็คกระเป๋าเรียบร้อย
ถ้ามีชุดขาวมาจะให้เราใส่ชุดขาวคลุมทับก่อนนะ เพราะเราจะใส่ชุดขาวข้ามสะพานเข้าเกาะ

ถ้าใครมีอุปกรณ์สื่อสาร ก็จะต้องไปฝากไว้ที่นี้เลย เค้าจะมีจุดรับฝากของ
ก็จะต้องเขียนใบฝากของแล้วเราจะได้บัตรมาหนึ่งใบ เพื่อมาเอาหลังจากที่ออกจากเกาะนะ

เมื่อจะเข้าเกาะจะให้เราอ่านกฏของที่นี้อีกหนึ่งครั้ง ก่อนจะเดินข้ามสะพานเข้าสู่เกาะมหามงคล
เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าเราจะตั้งมั่นปฏิบัติธรรมจริงๆนะ

พอเข้าไปแล้วเราก็ต้องไปรายงานตัวที่ตึกรายงานตัว ใช้บัตรประชาชนและเขียนกรอกรายละเอียด
ลงทะเบียนในการเข้าปฏิบัติ สำหรับคนที่เข้าพักครั้งแรก จะให้อยู่ได้ไม่เกิน 3 วันนะ
หลังลงทะเบียนเสร็จ ถ้าเราจะซื้อชุด หรืออะไรก็ตาม สามารถซื้อได้ที่นี้เลยนะ
เค้าจะตรวจระเบียบชุดอีกหนึ่งรอบ แล้วเช็คอีกรอบว่าเรายังขาดอะไรที่ต้องใช้ในนี้บ้าง
ถ้าขาดเหลือก็จะได้ซื้อเลย และให้เราอาบน้ำเปลี่ยนชุดสีขาวที่นี้เลย
ห้องอาบน้ำก็อยู่ที่นี้ ก่อนที่เราจะได้ไปเข้าเรือนที่พัก

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อย เราก็ไปลงทะเบียนที่เรือนที่พัก
โดยใช้บัตรประชาชนอีกครั้ง จะได้สไบมา และได้บัตรมา
เพื่อตอนออกจะต้องมาแลกบัตรประชาชนคืนที่นี้
และจะถูกตรวจสอบกระเป๋าเพื่อเช็คความเรียบร้อยอีกหนึ่งครั้ง

แล้วเค้าจะพาเราไปที่พัก เป็นเสื่อวางให้เราตามจุดนอนในศาลานะ
เป็นศาลาแบบเปิดกว้าง ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม เป็นลมจากธรรมชาตินะ

จะมีตารางกิจวัตรในแต่ละวันอยู่ที่ศาลา ว่าเวลาไหนทำอะไรบ้าง
ถ้าไม่รู้ส่วนไหน สอบถามกับแม่ชีที่ดูแลอยู่ได้เลย  ทุกคนใจดีมากนะ

การเดินทางไปเกาะมหามงคล 
ไปรถไฟลงสถานีเกาะมหามงคลได้เลย
ไปรถยนต์ก็ขับตาม GPS เลยนะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกดวงจิตที่คิดจะไปที่แห่งนี้ด้วยนะ สาธุจ๊ะ ^^
หากมีสิ่งใดผิดพลาด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยเช่นกันจ้า 

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเดินทาง ไหว้พระ 5 วัด ณ ย่างกุ้ง พม่า


วันที่ 24 มกราคม 2561

บันทึกการเดินทาง ไหว้พระ 5 วัด ณ ย่างกุ้ง พม่า 


การเดินทางไปเยือนพม่าครั้งแรกในชีวิต ภาพในจินตนาการของพม่าในหัวที่ผุดออกมา
คงหนีไปพ้น ภาพคนใส่ผ้าถุงนุ่ง เหมือนสมัยอยุธยา ที่เราเคยดูในละคร หรือหนังประวัติศาสตร์

เราเริ่มออกเดินทางจากบ้านมุ่งตรงสู่ดอนเมืองตั้งแต่ตีสาม เห็นจะได้มั่ง
ไปถึงสนามบินก็เกือบตีสี่ได้ละ  จัดการเข้าเช็คอิน หาอะไรลงท้อง ก่อนจะได้บิน
ถึงสนามบินที่ย่างกุ้ง ก็ประมาณ 9 โมง เห็นจะได้นะ

ที่ย่างกุ้งเวลาจะช้ากว่าบ้านเราประมาณ 30 นาที

วัดแรกที่จะไปก็เป็นวัดพระนอนตาหวาน จากสนามบินไปที่วัดก็ใช้เวลานานเหมือนกันนะ
ในย่างกุ้งรถติดนะ  ไกด์เล่าให้ฟังว่า อสังหาในย่างกุ้งราคาสูงมาก ติดอันดับโลกเลยละ
ราคาอยู่ที่ ตารางเมตรละ 2 ล้านบาทเลย ใครที่รวยก็รวย ใครที่จนก็จนเลย

คนที่นี้จะนุ่งผ้านุ่งผ้าซิ่นกันเป็นเรื่องปกติมา ทาหน้าขาวๆ ด้วยแป้งทานาคา
และจะหิ้วปิ่นโตไปไหนมาไหนเป็นเรื่องปกติ ถ้าเปรียบเทียบเหมือนถือกระเป๋าเลยละ


อันนี้เป็นภาพที่ถ่ายเก็บไว้ให้เห็นคนบ้านเมืองเค้า ดูยังไม่ได้มีการพัฒนามาก
แต่ก็ดูมีความเป็นเอกลักษณ์ กลิ่นอายวัฒนธรรม อืม... เรานั่งนึกอยู่นานว่ารู้สึกคับคล้ายคลับครา
กับเมืองไหน ถิ่นไหนที่เราไปมา  แต่ก็ยังนึกไม่ออกนะ

ช่างมันเถอะ ไปวัดแรกกันนะ ถึงวัดพระนอนตาหวาน ที่นี้ก็มีความเป็นมานะ ไกด์เล่าให้ฟัง
แต่จำมาหมดไม่ได้ เลยละไว้ดีกว่า เดี๋ยวกลัวข้อมูลจะผิดเพี้ยนไปนะ


มาถึงแล้ว ก็ต้องเข้าไปซื้อดอกไม้บูชา ราคาจะอยู่ที่ 1000 จาร์ดมั่ง ถ้าจำไม่ผิดนะ ไหว้หลายที่เกินนะ
ก็จะได้ดอกไม้บูชา มาพร้อมกับธูปเทียน เราก็นำไปจุดอธิษฐานขอพรด้านใน

ไกด์เล่าให้ฟังว่า พระนอนตาหวานให้อธิษฐานเรื่องความสวยความงาม รูปลักษณ์จะศักดิ์สิทธิ์นักนะ


 หลังกราบไหว้บูชาเสร็จแล้ว เราก็ไปเดินชมถ่ายภาพเก็บไว้ จะบอกว่าเรายืนมองดวงตานานมาก
คือสวยจับจิตเหลือเกินนะ  อธิบายไม่ถูก แต่สวยงามมากจริงๆนะ  เหมือนโดนมนต์สะกดเลยละ

เสร็จจากวัดแรกแล้ว ก็ไปวัดที่สองต่อ วัดเจดีย์ชเวดากอง เค้าบอกว่าที่นี้ศักดิ์สิทธิ์มากนะ
เราไปแบบคนไม่ได้มีความรู้มากนัก  พอไปถึงก็ต้องไปขึ้นลิฟท์ที่ตรงนี้


เดินเข้าไปทางด้านซ้ายมือ จะเจอจุดทางเข้า เราต้องไปฝากรองเท้าก่อนนะ
ค่าฝากรองเท้าจะอยู่ที่ คู่ละ 250 จาร์ด จะมีตะกร้าเบอร์รองเท้าให้เราจำไว้ เพราะเวลาลงมา
ก็บอกเบอร์ตะกร้าว่าอยู่ตะกร้าไหน จะได้หยิบได้ถูกคู่นะ


เข้าไปแล้ว เค้าจะติดสติกเกอร์ที่เสื้อเรา เป็นสติกเกอร์สำหรับผู้เข้าชม อย่าเผลอทำหายเชียวละ
และจะมีแจกน้ำดื่มกับทิชชู่เปียกให้กับเรา เอาไว้เช็คเท้าเวลาลงมาด้านล่างนะ


ก่อนจะขึ้นลิฟท์ ก็จะต้องผ่านการสแกนกระเปา สแกนเนื้อตัวคล้ายๆในสนามบินนะ
แล้วก็มีแจกแผนที่ แผนผัง ประวัติความเป็นมาที่นี้ให้กับเราด้วยนะ 

พอขึ้นลิฟท์ไปแล้ว  จะมีคนมาขายดอกไม้บูชาแบบนี้ ถ้าจำไม่ผิด จะมัดละ 500 จาร์ด
อันนี้จะเอาไว้สำหรับบูชาคล้องในส่วนของพระประจำวันเกิดนะ



แล้วเราก็เตรียมตัวเข้าด้านใน ไปรับชุดบูชาพระที่ด้านใน ชุดละ 2000 จาร์ดนะ
เพื่อจะไปอธิษฐานขอพรเทพเจ้าที่นี้ อันนี้ไกด์แนะนำให้ขอเรื่องการงาน
ตามจริงด้านในมีเยอะมากนะ  ดูแล้วคิดว่า ที่นี้มีอะไรเยอะมาก คุยกับเพื่อนที่ไปมาแล้ว
เค้าก็เล่าให้ฟังว่า ที่นี้ศักดิ์สิทธิ์มากนะ มีเทพเจ้าในหลายด้านที่นี้เลย แต่ก็ต้องทำให้ถูกพิธีด้วยนะ
คนไม่เคยไป ไม่มีไกด์ถิ่นนำทาง พูดได้คำเดียวว่า งง มึนตึบแน่ๆเลยละ

ที่นี้เราว่า สวยงามมากนะ เราเดินดูเราชอบในศิลปะ วิจิตรศิลป์ ช่างงดงามจริงๆนะ
หลังจากไหว้บูชาอธิษฐานเสร็จแล้ว ก็ไปรดน้ำพระประจำวันเกิดนะ

เค้าบอกว่า ที่นี้คนจะรดน้ำกัน ตามอายุ+1 นะ 
แต่ถ้าไม่มีเวลา ก็รดแค่ 3 ขัน 4 จุดก็พอแล้วนะ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 


มันมี 2 ที่นะ ของวันเรา แล้วจะมีศาลาตรงกลาง ยังงงๆ อยู่ แต่ด้วยเวลาไม่มากนัก
ก็ได้ทำแค่ 2 จุดที่นี้ แล้วก็เข้าไปที่ศาลากราบไหว้พระอีกที่นะ
แล้วก็เดินชมความงดงาม และผู้คนมากมายนะ ที่หลังไหลเข้ามาด้วยความศรัทธา
แม้แดดจะแรง แต่ก็ไม่อาจทำให้ผู้คนน้อยลงไปได้ คนเยอะพอควรเลยนะ

หลังเสร็จจากที่วัดเจดีย์ชเวดากองแล้ว ก็ได้ไปแวะกินข้าวเที่ยง
หิวมากนะ แต่อาหารที่นี้ก็อร่อยดีนะคะ รสชาติไม่จัดจ้าน แต่อร่อยดีนะ

เดี๋ยวมาพิมพ์ต่ออีก 3 วัดในบทความหน้านะคร้า  วันนี้ขอเขียนไว้แค่นี้ก่อน

-------------------------------------------------------------------
บันทึกการเดินทางโดย  น้องใหม่

วันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2561

สวัสดี

สวัสดีคร้า บล็อคนี้ พื้นที่ จะมาเขียนบันทึกการเดินทางของฉัน
การท่องเที่ยวในแบบฉบับของฉัน เพื่อเก็บไว้มาดูย้อนวัย
และคิดว่า เพื่อว่าใครจะไปเที่ยวที่ไหน ทำการบ้านการไปเที่ยวอย่างไร
แล้วแต่ละที่ท่องเที่ยว มีสิ่งแปลกตาอย่างไร
เดินทางอย่างไร  ที่ไหนตัวเราประทับใจอย่างไร
ก็คงจะถ่ายทอดบอกเล่าเป็นความรู้สึก ผ่านช่วงตัวอักษร
ร้อยเรียงออกมาเป็นการเดินทาง นักเดินทางตัวน้อยๆ
แบบฉบับตัวเราเอง  สไตส์ในแบบที่เป็นเราและเราชอบ

หากใครอ่านแล้วชื่นชอบ มีประโยชน์ ก็ขอบคุณนะคะ

น้องใหม่

ทริปขับรถเที่ยว ปุตราจายา กัวลาลัมเปอร์ เก็นติ้ง คาเมรอน ปีนังประเทศมาเลเซีย 5 วัน 4 คืน ตอนที่ 1

ทริปขับรถเที่ยว ปุตราจายา กัวลาลัมเปอร์ เก็นติ้ง คาเมรอน ปีนัง ประเทศมาเลเซีย 5 วัน 4 คืน ตอนที่ 1 โปรแกรมเดินทาง   เที่ยวแบบชิวๆ ไม่ต้...